กระบวนการฝึกครูเข้มแข็งตามแนวทางโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา

ครูคือบุคลากรสำคัญที่สุดในการสร้างคนคุณภาพ โดยเฉพาะโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาที่มีเป้าหมายพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งปัญญาภายนอกและปัญญาภายใน ซึ่งมีการคิดค้นแนวทางและวิธีการในการเรียนการสอนที่แตกต่างจากโรงเรียนในระบบการศึกษาทั่วไป รวมทั้งรับเอาแนวคิดเรื่องการพัฒนาทักษะสมอง EF และการพัฒนา Self มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนด้วย ดังนั้นผู้ที่จะมาเป็นครูที่นี่จึงต้องได้รับการฝึกฝน โดยมีกระบวนการฝึกอบรมที่น่าสนใจที่โรงเรียนอื่นๆ สามารถหยิบไปใช้ได้เช่นกัน 

1. เปิดตาเปิดใจ สำหรับการเป็นครูของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาไม่ได้รับคัดเลือกแล้วให้สอนทันที ต้องผ่านขั้นตอนการฝึก โดยแรกเริ่ม 3 เดือนแรกที่เข้าเป็นครู ทางโรงเรียนจะให้ครูใหม่ได้ดูการเรียนการสอนและทำความใจกระบวนการทุกอย่าง แล้วให้ดูใจตัวเอง ให้ถามตัวเองว่าหลังจากได้เห็นบรรยากาศการทำงานของครู เห็นการเรียนการสอนแบบนี้รับได้หรือไม่ ถ้ารับได้จะเซ็นสัญญา 1 ปี เป็นครูผู้ฝึก

2. เรียนรู้จากครูพี่เลี้ยงและ PLC ในระหว่างฝึกจะมีครู Mentor ที่เก่งคอยเป็นพี่เลี้ยง คอยสอนให้ใช้นวัตกรรมการศึกษา ให้เข้าใจเรื่องกระบวนการเรียนรู้ที่แท้ กระบวนการ PBL (Project Based Learning) จิตศึกษา ให้เข้าร่วมวง PLC (Professional Learning Community) หรือชุมชนการเรียนรู้ของครู ทุกครั้ง เมื่อครบ 1 ปีถ้าครูสามารถผ่านกระบวนการต่างๆ ได้ดี ก็จะให้ทำงานและฝึกฝนต่อไปจนครบ 3 ปีจึงจะได้เป็นครูผู้สอน แล้วขยับไปเป็นโค้ช เป็นเทรนเนอร์ให้ครูใหม่  

3. ปรับ Mindset ครูที่นี่จะต้องผ่านกระบวนการปรับ Mindset ในเรื่องการศึกษาแบบเดิมๆ ไปเป็นอีกแบบหนึ่ง ฝึกทักษะการสนทนาซึ่งเป็นพื้นฐานของ PLC ฝึกทักษะในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาเด็กตามแนวทางของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ทั้งจิตศึกษาและกระบวน PBL (Project Based Learning) การจัดทำแผนการเรียนการสอนหน่วย PBL ที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที  

4. เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร ในระหว่างที่อบรม ครูยังจะพูดคุยกันถึงวัฒนธรรมองค์กร ที่สามารถเสนอการปรับเปลี่ยนวิถีวัฒนธรรม ข้อปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคและขัดขวางต่อการเรียนรู้ร่วมกันได้ และวิธีการจัดการแก้ปัญหาอุปสรรค

5. ทดลองใช้แผนการสอนและ Site Visit หลังจาก PLC แล้วครูนำแผนการเรียนการสอนมาใช้ สัปดาห์แรกอาจทำผิดบ้าง ไม่ราบรื่นบ้าง แต่สัปดาห์ที่ 2-3 ก็ดีขึ้น  ประมาณ 1 เดือนต่อมา จะมีการออกเยี่ยม หรือ Site Visit ที่มีความหมายมาก เป็นการออกเยี่ยมเพื่อวิพากษ์ เพื่อ Empower ครู ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดี  เพราะครูได้ทดลองใช้แผนการสอนมา 1 เดือนแล้ว ครูกำลังสับสนวุ่นวาย ผู้ที่ออกเยี่ยมจะทั้งสาธิตการสอน และให้ครูของโรงเรียนนั้นๆ สอนให้ดู ตามด้วย PLC ซึ่งจะทำให้เห็นว่าครูทำผิดทำพลาดตรงไหน ดูระบบ ดูวิถีว่าเปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร การออกเยี่ยมครั้งแรกนี้จะทำให้โรงเรียนก้าวกระโดด และคลี่คลายปัญหาที่ทับถมอยู่ในเดือนที่ผ่านมา นอกจากจะช่วยคลี่คลายในหลายประเด็นแล้ว ยังทำให้สนามพลังในโรงเรียนเชื่อมกันได้ดี  ครูที่ออกไป Site Visit ด้วยกันก็จะได้เห็น เกิดความภูมิใจ เกิดทักษะขึ้นมาอีกระดับ 

(ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์)
https://www.facebook.com/lamplaimatpattanaschool/photos/10158445768840399

6. เรียนรู้ขาออก พอสิ้นภาคการศึกษา โรงเรียนจะจัดงานเปิดบ้าน เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามาดู ให้ออกแบบว่าผู้เรียนควรจะทำอะไรได้ เป็นการเรียนรู้ขาออกของครู

7. Super PLC ก่อนเปิดภาคการศึกษาที่ 2 มีการจัด Super PLC ครูทั้งโรงเรียนต้องมารีวิวหน่วยการสอนที่จะใช้ในภาคการเรียนถัดไป เพื่อให้เข้าใจ ใช้ได้แม่นยำ ลดทอนบางอย่างที่ไม่เหมาะ หรือเติมบางอย่างเข้าไป

8. PLN (Professional Learning Network) พอจบภาคการศึกษาที่ 2 ก็มี PLN ที่โรงเรียนเครือข่ายจะมารวมตัวกัน ร่วมกันถอดบทเรียน ถอดความสำเร็จ ปัญหาที่พบ รวมทั้งวิพากษ์แผนที่จะสอนในภาคการศึกษาที่ 3 ด้วย

จะเห็นได้ว่า เหล่านี้เป็นกระบวนการช่วยเหลือครูให้ได้เรียนรู้ เติบโตแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากจะเป็นการฝึกครูใหม่ให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติได้ถูกต้องแล้ว ครูทั้งหมดก็ได้ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน รวมทั้งโรงเรียนในเครือข่าย และผลพลอยได้ที่ยิ่งใหญ่เป็นการสร้างสนามพลังบวกให้เกิดขึ้นในโรงเรียนได้เป็นอย่างดีด้วย


ความรู้ชุด “ดูแลเด็กยุคโควิด” โดย สถาบัน RLG (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป)
เนื้อหาจากการประชุมจัดการความรู้: การพัฒนาทักษะสมอง EF กับการเรียนรู้ของเด็กระดับชั้นประถมศึกษา ครั้งที่ 6 กรณีศึกษาโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์
ปรารถนา หาญเมธี เขียน
ผาณิต บุญมาก เรียบเรียง
ภาวนา อร่ามฤทธิ์ บรรณาธิการ